บทวิเคราะห์ราคาทองคำ: แรงกดดันจากการส่งสัญญาณเฟดและการขายทำกำไร
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวลงแรงหลังจากที่
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง
0.25% สู่ระดับ
4.25%-4.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
[ul]
- อย่างไรก็ตาม Dot Plot ของเฟดส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้าลงเพียง 2 ครั้ง รวม 0.50% ซึ่งลดลงจากสัญญาณเดิมในเดือนกันยายนที่คาดว่าจะลดดอกเบี้ย 4 ครั้ง รวม 1.00%
- เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ระบุว่าเฟดมีความระมัดระวังในการลดดอกเบี้ย ซึ่งส่งผลให้ตลาดผิดหวังและเกิดแรงขายในสินทรัพย์ปลอดภัย
- กองทุน SPDR ขายทองคำออกอีก 0.29 ตัน สะท้อนแรงขายในตลาด
[/ul]
แนวโน้มราคาทอง (https://www.shopsnughaven.com/1681/)
(https://s.isanook.com/mn/0/ud/186/932415/goldway19.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/webp)
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามคืนนี้
[ol]
- GDP ไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งสุดท้าย)
- จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
- ดัชนีกิจกรรมการผลิตเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย (เดือนธันวาคม)
- ยอดขายบ้านมือสอง (เดือนพฤศจิกายน)
[/ol]
ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและทิศทางราคาทองคำ
วิเคราะห์ราคาทองคำ
[ul]
- สัญญาณทางเทคนิค: ราคาทองคำปรับตัวลงต่ำกว่าเส้น SMA100 และสัญญาณจาก MACD กลับทิศทางเป็นขาลง (Bearish MACD)
- แนวโน้มระยะสั้น: ราคาทองคำอาจฟื้นตัวเล็กน้อย แต่คาดว่าจะไม่ผ่านแนวต้านที่ 2,625 ดอลลาร์
- แรงขายอาจเพิ่มขึ้น หากราคาขยับใกล้แนวต้านดังกล่าว
[/ul]
กลยุทธ์การลงทุน
[ul]
- แนวรับ: 2,580 และ 2,560 ดอลลาร์
- แนวต้าน: 2,625 และ 2,630 ดอลลาร์
[/ul]
คำแนะนำ:[ul]
- แนะนำเปิดสถานะขายบริเวณ 2,625 ดอลลาร์
- ตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 2,630 ดอลลาร์
- เป้าหมายทำกำไรที่แนวรับ 2,580 ดอลลาร์
[/ul]
นักลงทุนควรติดตามตัวเลขเศรษฐกิจในคืนนี้และความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับแนวโน้มตลาดที่ยังคงมีความผันผวน