รู้จักโรคเหงือกอักเสบและปริทันต์อักเสบ สาเหตุ อาการเตือน วิธีป้องกันการสูญเสียฟัน พร้อมคำแนะนำจากทันตแพทย์

โรคเหงือกอักเสบ vs ปริทันต์อักเสบ ต่างกันอย่างไร?
โรคเหงือกอักเสบ (Gingivitis) คือการอักเสบเฉพาะเหงือก รักษาได้หากพบเร็ว ส่วน โรคปริทันต์อักเสบ (Periodontitis) เป็นภาวะรุนแรงที่ทำลายเนื้อเยื่อรองรับฟัน อาจทำให้สูญเสียฟันถาวร
ตามข้อมูลจากกรมการแพทย์ 80% ของคนไทยวัยทำงาน มีปัญหาเหงือกอักเสบ โดย สาเหตุหลักมาจากแบคทีเรียในคราบจุลินทรีย์ ที่สะสมบริเวณเส้นเหงือก
ความแตกต่างสำคัญ
อาการเตือนที่ห้ามมองข้าม
⚠️ อาการโรคเหงือกอักเสบ (ระยะแรก)
[ul]
🚨 อาการปริทันต์อักเสบ (ระยะรุนแรง)
[ul]
FAQ: คำถามยอดฮิตเรื่องโรคเหงือก
Q: โรคเหงือกอักเสบรักษาหายได้จริงไหม?
A: รักษาหายได้ 100% หากพบแพทย์ในระยะแรก แต่หากลุกลามเป็นปริทันต์อักเสบจะไม่สามารถกลับคืนได้
Q: ทำไมถึงไม่เจ็บแต่ฟันหลุด?
A: โรคปริทันต์อักเสบมักไม่มีอาการเจ็บ เพราะเป็นการทำลายเนื้อเยื่อแบบค่อยเป็นค่อยไป
Q: แปรงฟันเลือดออกปกติไหม?
A: ไม่ปกติ เหงือกสุขดีไม่ควรเลือดออกเมื่อแปรงฟัน
สาเหตุของโรคเหงือกและปริทันต์อักเสบ
สาเหตุหลัก
🦠 แบคทีเรียในคราบจุลินทรีย์ (90% ของผู้ป่วย)
[ul]
ปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติม
[ul]
วิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพ
การดูแลประจำวัน
✅ ทำทุกวัน
[ul]
⛔ หลีกเลี่ยง
[ul]
การตรวจสุขภาพช่องปาก
📅 ทุก 6 เดือน
[ul]
📅 ทุก 3 เดือน (สำหรับผู้ป่วยเสี่ยงสูง)
[ul]
วิธีรักษาตามระดับความรุนแรง
ระยะเริ่มต้น (Gingivitis)
[ol]
ระยะรุนแรง (Periodontitis)
[ol]
เมื่อไหร่ควรพบทันตแพทย์ด่วน?
🚨 ควรพบแพทย์ทันที หาก:
[ul]
⏰ อย่ารอช้า เพราะ:
[ul]
ค่าใช้จ่ายในการรักษา (ราคาเฉลี่ย)
โรงพยาบาลรัฐ
[ul]
คลินิกเอกชน
[ul]
เทคนิค: สมัครสิทธิ์ 30 บาทรักษาทุกโรค ใช้ได้ในโรงพยาบาลรัฐ
สรุป: ป้องกันดีกว่ารักษา โรคเหงือกและปริทันต์อักเสบเป็น "ภัยเงียบ" ที่อาจทำให้สูญเสียฟันถาวร แต่ ป้องกันได้ 100% ด้วยการดูแลที่ถูกต้อง
3 สิ่งสำคัญ:
แปรงฟัน-ใช้ไหมขัดฟัน ทุกวัน
ตรวจฟันสม่ำเสมอ ทุก 6 เดือน
พบแพทย์ทันที เมื่อมีอาการผิดปกติ
จำไว้: การรักษาในระยะแรกประหยัดกว่าการปลูกฟันใหม่หลายเท่า!

โรคเหงือกอักเสบ vs ปริทันต์อักเสบ ต่างกันอย่างไร?
โรคเหงือกอักเสบ (Gingivitis) คือการอักเสบเฉพาะเหงือก รักษาได้หากพบเร็ว ส่วน โรคปริทันต์อักเสบ (Periodontitis) เป็นภาวะรุนแรงที่ทำลายเนื้อเยื่อรองรับฟัน อาจทำให้สูญเสียฟันถาวร
ตามข้อมูลจากกรมการแพทย์ 80% ของคนไทยวัยทำงาน มีปัญหาเหงือกอักเสบ โดย สาเหตุหลักมาจากแบคทีเรียในคราบจุลินทรีย์ ที่สะสมบริเวณเส้นเหงือก
ความแตกต่างสำคัญ
[th]โรคเหงือกอักเสบ[/th] [th]ปริทันต์อักเสบ[/th] | |
อักเสบเฉพาะเหงือก | ทำลายเนื้อเยื่อรองรับฟัน |
รักษาหายได้ | ไม่สามารถกลับคืนได้ |
ไม่มีกระเป๋าเหงือก | มีกระเป๋าเหงือกลึก |
ฟันไม่โยก | ฟันโยก อาจหลุด |
อาการเตือนที่ห้ามมองข้าม
⚠️ อาการโรคเหงือกอักเสบ (ระยะแรก)
[ul]
- เหงือกสีแดงคล้ำ แทนสีชมพูปกติ
- เหงือกบวม แปรงฟันแล้วเลือดออกง่าย
- กลิ่นปากแรง แม้แปรงฟันแล้ว
- เหงือกอ่อนแอ เจ็บเมื่อสัมผัส
🚨 อาการปริทันต์อักเสบ (ระยะรุนแรง)
[ul]
- เหงือกมีหนอง กดเหงือกแล้วมีของเหลวไหลออก
- ฟันโยกหรือยื่นยาว ผิดปกติ
- เคี้ยวเจ็บ โดยเฉพาะอาหารแข็ง
- มักไม่เจ็บในระยะแรก แต่เมื่อรุนแรงอาจต้องถอนฟัน
FAQ: คำถามยอดฮิตเรื่องโรคเหงือก
Q: โรคเหงือกอักเสบรักษาหายได้จริงไหม?
A: รักษาหายได้ 100% หากพบแพทย์ในระยะแรก แต่หากลุกลามเป็นปริทันต์อักเสบจะไม่สามารถกลับคืนได้
Q: ทำไมถึงไม่เจ็บแต่ฟันหลุด?
A: โรคปริทันต์อักเสบมักไม่มีอาการเจ็บ เพราะเป็นการทำลายเนื้อเยื่อแบบค่อยเป็นค่อยไป
Q: แปรงฟันเลือดออกปกติไหม?
A: ไม่ปกติ เหงือกสุขดีไม่ควรเลือดออกเมื่อแปรงฟัน
สาเหตุของโรคเหงือกและปริทันต์อักเสบ
สาเหตุหลัก
🦠 แบคทีเรียในคราบจุลินทรีย์ (90% ของผู้ป่วย)
[ul]
- สะสมบริเวณเส้นเหงือกและซอกฟัน
- ก่อให้เกิดสารพิษทำลายเหงือก
ปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติม
[ul]
- การสูบบุหรี่ เพิ่มความเสี่ยง 6 เท่า
- โรคเบาหวาน ทำให้รักษายาก
- ความเครียด ลดภูมิคุ้มกัน
- พันธุกรรม บางคนเสี่ยงมากกว่า
- ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง (ตั้งครรภ์, วัยหมดประจำเดือน)
วิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพ
การดูแลประจำวัน
✅ ทำทุกวัน
[ul]
- แปรงฟัน 2 ครั้ง (เช้า-เย็น) อย่างน้อย 2 นาที
- ใช้ไหมขัดฟัน ก่อนแปรงฟันทุกครั้ง
- บ้วนน้ำยาฆ่าเชื้อ หลังแปรงฟัน
- ขูดลิ้น กำจัดแบคทีเรีย
⛔ หลีกเลี่ยง
[ul]
- การสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- อาหารหวานและเหนียว
- การใช้ฟันแทะของแข็ง
การตรวจสุขภาพช่องปาก
📅 ทุก 6 เดือน
[ul]
- ตรวจสุขภาพช่องปาก
- ขูดหินปูนและทำความสะอาดฟัน
- ตรวจหากระเป๋าเหงือก (Pocket Depth)
📅 ทุก 3 เดือน (สำหรับผู้ป่วยเสี่ยงสูง)
[ul]
- ผู้ป่วยเบาหวาน
- ผู้สูบบุหรี่
- มีประวัติโรคปริทันต์อักเสบ
วิธีรักษาตามระดับความรุนแรง
ระยะเริ่มต้น (Gingivitis)
[ol]
- ขูดหินปูน กำจัดคราบจุลินทรีย์
- สอนการแปรงฟันที่ถูกต้อง
- ใช้ยาบ้วนปากพิเศษ ตามแพทย์สั่ง
- นัดติดตาม ใน 2-4 สัปดาห์
ระยะรุนแรง (Periodontitis)
[ol]
- Scaling and Root Planing ขูดรากฟันให้เรียบ
- ผ่าตัดเหงือก (หากจำเป็น)
- ปลูกกระดูกใหม่ สำหรับกรณีกระดูกพังมาก
- การดูแลระยะยาว ตรวจทุก 3-4 เดือน
เมื่อไหร่ควรพบทันตแพทย์ด่วน?
🚨 ควรพบแพทย์ทันที หาก:
[ul]
- เลือดออกจากเหงือกบ่อยครั้ง
- มีหนองไหลจากเหงือก
- ฟันโยกหรือเคลื่อนที่
- เจ็บมากผิดปกติ
- กลิ่นปากแรงแม้แปรงฟันแล้ว
⏰ อย่ารอช้า เพราะ:
[ul]
- รักษาเร็ว = โอกาสรักษาหายสูง
- รักษาช้า = เสี่ยงสูญเสียฟันถาวร
- ค่ารักษาน้อยกว่าการปลูกฟันใหม่
ค่าใช้จ่ายในการรักษา (ราคาเฉลี่ย)
โรงพยาบาลรัฐ
[ul]
- ขูดหินปูน: 200-500 บาท
- รักษารากฟัน: 1,000-3,000 บาท/ซี่
- ผ่าตัดเหงือก: 5,000-15,000 บาท
คลินิกเอกชน
[ul]
- ขูดหินปูน: 800-2,000 บาท
- รักษารากฟัน: 3,000-8,000 บาท/ซี่
- ผ่าตัดเหงือก: 15,000-50,000 บาท
เทคนิค: สมัครสิทธิ์ 30 บาทรักษาทุกโรค ใช้ได้ในโรงพยาบาลรัฐ
สรุป: ป้องกันดีกว่ารักษา โรคเหงือกและปริทันต์อักเสบเป็น "ภัยเงียบ" ที่อาจทำให้สูญเสียฟันถาวร แต่ ป้องกันได้ 100% ด้วยการดูแลที่ถูกต้อง
3 สิ่งสำคัญ:
แปรงฟัน-ใช้ไหมขัดฟัน ทุกวัน
ตรวจฟันสม่ำเสมอ ทุก 6 เดือน
พบแพทย์ทันที เมื่อมีอาการผิดปกติ
จำไว้: การรักษาในระยะแรกประหยัดกว่าการปลูกฟันใหม่หลายเท่า!