เก้าอี้ออฟฟิศ ที่ดีควรเป็นอย่างไร เลือกให้เหมาะเพื่อลดปวดหลังและเพิ่มประสิทธิภาพ

[Jenniee]

เก้าอี้ออฟฟิศ ที่ดีควรเป็นอย่างไร เลือกให้เหมาะเพื่อลดปวดหลังและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
ในยุคที่คนทำงานจำนวนมากใช้เวลานั่งอยู่กับโต๊ะตลอดทั้งวัน การเลือก เก้าอี้ออฟฟิศ ที่เหมาะสมจึงไม่ใช่แค่เรื่องของดีไซน์หรือราคา แต่คือเรื่องของสุขภาพและประสิทธิภาพในการทำงานโดยตรง เก้าอี้ที่ดีจะช่วยลดอาการเมื่อยล้า ปวดกล้ามเนื้อ และส่งเสริมบุคลิกภาพที่ดี ในขณะที่เก้าอี้ที่ไม่เหมาะสมอาจนำไปสู่ปัญหาเรื้อรังที่แก้ไขยากในระยะยาว

ทำไมการเลือกเก้าอี้สำหรับที่ทำงานจึงสำคัญ
เวลาที่ใช้กับเก้าอี้ระหว่างวันไม่ต่างจากเวลานอน เพราะเรานั่งเฉลี่ยมากกว่า 6–8 ชั่วโมงต่อวัน โดยเฉพาะในงานที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นหลัก หากเก้าอี้ไม่รองรับสรีระ จะทำให้ร่างกายต้องปรับท่าทางเองจนเกิดความตึงเครียดในกล้ามเนื้อ
ปัญหาที่พบบ่อยคือปวดหลังส่วนล่าง ปวดคอ ไหล่ล้า และมีอาการชาในบางจุดของร่างกาย ซึ่งสะสมจนกลายเป็นออฟฟิศซินโดรมที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพและสุขภาพโดยรวมของพนักงาน

ลักษณะของเก้าอี้ที่เหมาะสมกับการใช้งานจริง
พนักพิงที่โค้งรองรับแผ่นหลัง
ควรมีส่วนเว้าโค้งที่พอดีกับแนวกระดูกสันหลังช่วงเอว เพื่อกระจายน้ำหนักและลดแรงกดที่หลังส่วนล่าง ถ้าพนักพิงตรงเกินไปหรือไม่ยืดหยุ่น อาจทำให้ต้องนั่งเกร็งและเกิดอาการปวดเรื้อรังได้ง่าย
เบาะนั่งที่ไม่แข็งหรือยุบเกินไป
ควรมีความนุ่มในระดับกลาง รองรับน้ำหนักได้ทั่วทั้งก้นและต้นขา โดยไม่กดทับเส้นเลือด บางรุ่นมีขอบเบาะลาดเอียงลงเพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ลดอาการขาชาเมื่อใช้งานต่อเนื่อง
ความสามารถในการปรับระดับ
เก้าอี้ที่ดีควรสามารถปรับระดับความสูงของเบาะ พนักพิง และที่วางแขนได้ เพื่อให้เหมาะกับความสูงของผู้ใช้และระดับของโต๊ะทำงาน การปรับได้หลายส่วนจะช่วยให้ร่างกายอยู่ในตำแหน่งที่สมดุลที่สุด
วัสดุระบายอากาศได้ดี
วัสดุประเภทตาข่าย (Mesh) เป็นที่นิยมมากในยุคนี้ เพราะระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้นเหมือนเบาะผ้า หรือร้อนแบบหนังเทียม เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นในไทย

สรุป
การเลือกเก้าอี้สำหรับใช้ในสำนักงานไม่ใช่แค่เรื่องของรสนิยม แต่คือการลงทุนกับสุขภาพระยะยาวที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง หากสามารถเลือกที่นั่งที่ตอบโจทย์ทั้งสรีระ ฟังก์ชัน และความรู้สึกขณะใช้งานได้ดี จะช่วยลดความเหนื่อยล้า เสริมสมาธิ และทำให้การทำงานตลอดวันเต็มไปด้วยคุณภาพอย่างแท้จริง


a