เมืองไทยเป็นประเทศใน{เอเชียตะวันออกเฉียงใต้|เอเซียอาคเนย์

[Marinas]

ประเทศไทยเป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ตั้งอยู่ในใจกลางแหลมอินโดจีน มีประชากรมากกว่า 69 ล้านคน และเป็นเลิศในประเทศที่มีผู้เยี่ยมชมสูงที่สุดในโลก เพราะมรดกทางวัฒนธรรมอันยาวนาน วัฒนธรรมที่สดชื่น และก็ความสวยของธรรมชาติอันน่าทึ่ง ประเทศมีการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจอย่างยิ่งในช่วงสองสามทศวรรษก่อนหน้าที่ผ่านมาซึ่งนำมาซึ่งการทำให้คนไทยมีความก้าวหน้าในชั้นสูง เนื้อหานี้จะตรวจสอบปัจจัยบางประการที่ทำให้ประเทศไทยเจริญรุ่งเรืองและมีความหมายถัดไปในอนาคต

ปัจจัยหลักประการหนึ่งที่มีหน้าที่สำคัญสำหรับการเคลื่อนการบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจของเมืองไทยเป็นการลงทุนโดยตรงจากต่างแดน (FDI) ในช่วงไม่กี่ปีให้หลัง กระแสการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่หลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทยมีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ ด้วยเหตุว่าบริษัทข้ามชาติได้รับความพอใจจากเงินลงทุนแรงงานที่ค่อนข้างจะต่ำ แรงกระตุ้นด้านภาษีที่น่าสนใจ และก็แรงงานที่มีการเรียนรู้สูง การไหลเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศได้ช่วยกระตุ้นการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจในประเทศไทยและสร้างงานให้กับชาวไทยหลายล้านคน นอกนั้น การลงทุนครั้งนี้ทำให้เมืองไทยสามารถปรับปรุงองค์ประกอบเบื้องต้นรวมทั้งเปลี่ยนแปลงการเข้าถึงการดูแลและรักษาพยาบาลและก็การเล่าเรียน

ปัจจัยหลักอีกประการหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทยรุ่งโรจน์คืออุตสาหกรรมการผลิต โดยเฉพาะ การส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แล้วก็ยานยนต์เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในตอนไม่กี่ปีที่ล่วงเลยไป โดยคิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของการส่งออกทั้งหมดทั้งปวงจากประเทศ กิจกรรมการสร้างที่เฟื่องฟูนี้ทำให้ชาวไทยเป็นจำนวนมากสามารถหางานที่มีค่าตอบแทนดีในโรงงานต่างๆทั้งประเทศ ทำให้ค่าจ้างสูงมากขึ้นรวมทั้งมาตรฐานการครองชีพของพลเมืองหลายชิ้นดียิ่งขึ้น ยิ่งกว่านั้นยังช่วยล่อใจการลงทุนโดยตรงจากต่างแดนเข้ามาในประเทศไทยเยอะขึ้นเรื่อยๆ เนื่องด้วยบริษัทต่างชาติมองหาคุณประโยชน์จากภาคการสร้างที่กำลังขยายตัวของประเทศ

ประการในที่สุด การท่องเที่ยวยังมีบทบาทสำคัญสำหรับในการเกื้อหนุนเศรษฐกิจของเมืองไทย ด้วยชายทะเลที่สวยสดงดงาม เกาะที่สวยงาม วัดโบราณ สัตว์ป่าหลายประเภท แล้วก็เมืองที่กระปรี้กระเปร่า นักเดินทางจากทั้งโลกหลั่งไหลมาที่ประเทศไทยทุกปีเพื่อค้นหาการเสี่ยงอันตรายหรือการพักผ่อนหย่อนใจ ตอนนี้การท่องเที่ยวเป็นแหล่งรายได้รวมทั้งช่องทางการจ้างงานที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศในภาคส่วนนี้

การรวมกันของปัจจัยเหล่านี้ได้ส่งผลให้เกิดความร่ำรวยที่มากขึ้นอย่างมากทั่วทั้งประเทศไทยในตอนหลายปีล่วงมาแล้ว อัตราความอนาถาในประเทศไทยลดลงจาก 12% ในปี 2543 เป็น 6% ในปี 2561 ตามข้อมูลของธนาคารโลก ในขณะที่รายได้เฉลี่ยของครอบครัวก็มากขึ้นโดยตลอดด้วยเหมือนกัน การปรับแก้นี้สามารถเห็นได้ในทุกกลุ่มประชากรรวมถึงพื้นที่บ้านนอกซึ่งล้าหลังกว่าแกนกลางเมืองเมื่อเอ่ยถึงการพัฒนาเศรษฐกิจ

เมื่อดูไปด้านหน้า เมืองไทยมีความท้าทายหลายประการที่จำเป็นต้องพบเจอ ถ้าหากจะต้องรักษาระดับความรุ่งเรืองในปัจจุบันให้คงอยู่ต่อไป ความท้าอย่างหนึ่งเป็นการจัดการการขยายตัวของเมืองอย่างเร็ว เนื่องมาจากคนไม่ใช่น้อยย้ายจากพื้นที่ต่างจังหวัดไปสู่เมืองเพื่อสืบเสาะหาช่องทางสำหรับเพื่อการดำเนินการที่ดียิ่งขึ้นและโอกาสอื่นๆเพื่อจัดการกับปัญหานี้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรต้องมีการลงทุนเยอะมากในส่วนประกอบเบื้องต้นสาธารณะ ดังเช่น ถนนหนทางแล้วก็โครงข่ายการขนส่งขนส่ง เพื่อให้เมืองต่างๆยังคงเป็นที่พักอาศัยที่มีคุณภาพดีในราคาที่สมควร ความท้าอีกประการหนึ่งที่ประเทศไทยจำต้องพบเจอเป็นการเปลี่ยนแปลงลักษณะภูมิอากาศ ซึ่งเรื่องราวสภาพอากาศที่รุนแรงกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นเหตุเพราะอุณหภูมิที่สูงขึ้นซึ่งมีเหตุที่เกิดจากสภาวะโลกร้อน เพื่อแก้ไขปัญหานี้ควรต้องดำเนินงานจากอีกทั้งภาครัฐรวมทั้งภาคธุรกิจด้วยความริเริ่มคิดสร้างสรรค์ต่างๆเช่น การสร้างพลังงานหมุนวนเพื่อลดการปลดปล่อยแก๊สคาร์บอน

โดยรวมแล้ว จะมองเห็นได้ว่า ถึงแม้ประเทศไทยจะยังมีความท้าทายที่เผชิญอยู่บนทางสู่ความเจริญในระดับที่สูงขึ้น เป็นที่กระจ่างว่าความเจริญอย่างยิ่งได้เกิดขึ้นแล้ว จำต้องขอบคุณการลงทุนที่ฉลาดปราดเปรื่อง หลักการเศรษฐกิจที่ดี รวมทั้งอุตสาหกรรมการผลิตที่เจริญ ตราบเท่าที่แนวโน้มพวกนี้ยังคงเดินต่อไป ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมืองไทยจะยังคงเป็นประเทศที่เจริญต่อไปอีกยาวนานหลายปีข้างหน้า
[url=https://sites.google.com/view/storymeforyou/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81]storymeforyou[/url]